การสร้างพื้นที่สีเขียวภายในบริเวณบ้าน หลายคนคงคิดว่าต้องมีพื้นที่กว้าง มีสนามหญ้า เป็นบ้านเดียว แต่ความจริงแล้วยังมีการจัดสวนที่ใช้พื้นที่ขนาดเล็ก อยู่ในบริเวณพื้นที่จำกัดทั้งในคอนโด ทาวเฮ้าส์ สำนักงานและภายในห้อง โดยสวนขนาดเล็กที่นิยมจะเป็นสวนแนวตั้ง สวนในกระถางและสวนขวด แม้พื้นที่สวนจะมีขนาดไม่ใหญ่แต่สวนเหล่านี้ก็สามารถช่วยเติมเติมความรู้สึกสดชื่น สบายตา ให้กับทุกคนในทุกครั้งที่ได้หันมามองสีเขียวผ่านมุมเล็กๆ นี้
การปลูกต้นไม้ในแนวตั้งหรือสวนแนวตั้งบนกำแพงหรือแนวเสา (VERTICAL GARDEN) จะช่วยปรับบรรยากาศของผนังปูนหรือคอนกรีตที่ดูร้อนแห้งและแข็งกระด้าง ให้เป็นพื้นที่สีเขียวสดชื่น สวยงามมีชีวิตชีวาเป็นธรรมชาติ สวยงาม ลดฝุ่น เพิ่มออกซิเจน และประหยัดพื้นที่ในการจัดสวนไปพร้อมๆ กัน โดยสิ่งสำคัญในการจัดสวนแนวตั้ง มักประกอบด้วยส่วนสำคัญ คือ
1.การออกแบบสวน จะต้องมีการออกแบบให้สวนแนวตั้งเหมือนภาพวาดนูนสูงที่แต่งแต้มไปด้วยสีสันและความเขียวสดชื่น เริ่มต้นจากการพิจารณาว่าสวนแนวตั้ง ตั้งอยู่ในหรือนอกอาคารเพื่อใช้เป็นตัวกำหนดชนิดของต้นไม้และระบบรดน้ำ โดยนักออกแบบและนักภูมิทัศน์มักมีสไตล์การออกแบบที่ต่างกันไป หากพื้นที่ที่จัดสวนแนวตั้งนั้นอยู่ในระดับสายตา นักออกแบบมักคำนึงถึงรายละเอียด ออกแบบให้มีต้นไม้หลากหลายแบบหลากหลากสี ทำให้สวนแนวตั้งเกิดมิติสวยงาม ถ้าเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่และอยู่สูงขึ้นไป นักออกแบบมักจัดสวนแนวตั้งโดยใช้ต้นไม้ชนิดเดียวกันเรียงเป็นกลุ่มๆ เพื่อไม่ให้ดูรก หรืออาจออกแบบให้ต้นไม้มีความหลายหลายแต่เป็นโทนสีเขียวทั้งหมด
2.การเลือกชนิดของต้นไม้ การจัดสวนแนวตั้งจะเป็นการปลูกต้นไม้ที่ลำต้นของต้นไม้จะเอียงอยู่ตลอดเวลาที่ปลูก ต้นไม้จะไม่ได้ปลูกอยู่ในแนวตั้งตรงเหมือนการเจริญเติบโตของต้นไม้ทั่วไป จึงควรเลือกต้นไม้ที่มีทรงพุ่มหนาแน่น ดูแลง่ายไม่เน่าง่าย มีการเจริญเติบโตช้า เช่น สัปปะรดสี, เฟิร์น, พลูด่าง, ฟิโลเดนดรอน, ไม้อิงอาศัย,ไม้ที่มีรากอากาศ (ถ้าเลือกต้นไม้ที่โตเร็วจะทำให้สวนแนวตั้งรกง่าย) หรือถ้ามีการปลูกในแผงถุงผ้าก็จะเป็นการปลูกในสภาพที่มีดินไม่มากและรากของต้นไม้ไม่สามารถชอนไชหาอาหารได้เหมือนการปลูกต้นไม้ปกติ จึงควรเลือกเป็นไม้ใบหรือไม้เลี้อยขนาดเล็ก น้ำหนักเบา อาจต้องทนร่มหรืออยู่ได้ในที่แสงรำไร
3.การติดตั้งระบบรดน้ำ จะต้องออกแบบให้ทั่วถึงและเพียงพอเพื่อช่วยประหยัดเวลาในการให้น้ำและดูแลรักษา กรณีสวนแนวตั้งอยู่ภายในบริเวณอาคาร จะต้องมีการวางระบบรดน้ำและระบบรางระบายน้ำอย่างดีเพื่อไม่ให้พื้นที่สวนแนวตั้งบริเวณนั้น เปืยกชุ่มหรือมีน้ำไหลนองพื้น กรณีสวนแนวตั้งอยู่กลางแจ้งภายนอกอาคารก็สามารถใช้การรดน้ำด้วยสายยางหรือใช้ถังสเปรย์น้ำแบบสะพานหลังได้ปกติ การรดน้ำด้วยวิธีการสเปรย์น้ำจะช่วยล้างคราบสกปรกและฝุ่นให้หลุดออกจากใบ เหมือนเป็นการล้างใบ ช่วยให้สวนสวยดูเขียวสดและช่วยให้การสังเคราะห์แสงดีขึ้น แต่ถ้าสวนแนวตั้งนั้นติดตั้งอยู่ในบริเวณที่สูงเช่น สวนแนวตั้งรอบเสาสูงก็อาจต้องมีการวางระบบน้ำหยดเพื่อให้สามารถรดน้ำและดูแลต้นไม้ที่อยู่สูงได้ทั่วถึง ซึ่งนอกจากระบบน้ำและระบบระบายน้ำ ในการจัดสวนแนวตั้งเราจะต้องไม่ลืมเรื่องสำคัญอีก 2 เรื่อง คือ เรื่องของทิศทางลม ถ้าสวนแนวตั้งอยู่ในบริเวณที่มีลมพัดแรงหรือเป็นร่องลม ต้นไม้จะถูกแรงลมพัดพาเอาน้ำออกจากใบไปได้มากว่าปกติทำให้ต้องรดน้ำในปริมาณที่มากกว่าปกติ และเรื่องของความชื้นที่จะซึมจากสวนแนวตั้งไปสู่แนวผนังด้านหลังของสวน ที่อาจเป็นต้นเหตุทำให้ผนังอีกด้านของสวนแนวตั้งเกิดคราบเชื้อราได้
4.การเลือกวัสดุปลูกและโครงสร้างที่จะรับน้ำหนัก วัสดุปลูกที่จะนำมาใช้ในการจัดสวนแนวตั้งควรมีน้ำหนักเบาแต่อุ้มน้ำไว้ได้ดี เช่น ขุยมะพร้าวหรือกาบมะพร้าวสับ ส่วนโครงสร้างที่จะยึดระหว่างโครงเหล็กเพื่อวางกระถางหรือโครงเหล็กที่ใช้ในการแขวนแผงถุงผ้าเฟลท์ ต้องมีการคำนวนเพื่อให้สามารถรับน้ำหนักของต้นไม้ กระถาง ดิน วัสดุปลูก ระบบน้ำและที่ลืมไม่ได้คือ น้ำหนักของน้ำที่รดเข้าไป ส่วนรูปแบบที่นิยมใช้ในการทำสวนแนวตั้งจะแบ่งเป็นแบบใหญ่ๆ ได้ 2 แบบ คือ แบบแผงโดยใช้ถุงผ้าเฟลท์ จะเป็นรูปแบบที่นิยมใช้เพราะราคาถูกกว่าแบบกระถาง ใช้พื้นที่น้อย น้ำหนักเบา ส่วนแบบกระถาง เป็นรูปแบบที่ต้องมีการติดตั้งโครงสร้างเพื่อวางกระถาง ราคาจึงแพงและมีน้ำหนักมากกว่า
“รากดี” พร้อมให้คำปรึกษา ช่วยเหลือด้านการออกแบบและจัดภูมิทัศน์สวนขนาดใหญ่ รวมถึงสวนแนวตั้งและบริการดูแลสวนโดยทีมผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายด้าน ปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Line@ https://bit.ly/3vFVcWa
#สวนแนวตั้ง #Verticlegarden #จัดสวน #รากดี #RakD #รากฐานที่มั่นคงเพื่อความสุขที่ยั่งยืน #LandscapeBusiness #Landscape #RakDLandscape #จัดภูมิทัศน์ #ออกแบบจัดสวน #จัดสวนครบวงจร #ให้คำปรึกษาด้านภูมิทัศน์ #ดูแลรักษาภูมิทัศน์ #รับตัดแต่งต้นไม้สนามหญ้า #รับย้ายต้นไม้ใหญ่
