เราจะรู้ได้อย่างไร…ว่าเราต้องรดน้ำให้ต้นไม้แต่ละต้นเยอะมากเท่าไหร่ ? แล้วถ้าอยากมีระบบรดน้ำต้องใช้อุปกรณ์ หัวจ่ายน้ำ และส่วนประกอบอะไรบ้าง ? แล้วราคาการออกแบบและวางระบบน้ำแพงมั้ย ราคาประมาณเท่าไหร่ ? หลายหลายครั้งในการนำเสนองานออกแบบสวนตามสถานที่ต่างๆ ลูกค้ามักสอบถามถึงเรื่องการทำระบบรดน้ำ ซึ่งคำถามของลูกค้าที่มักถามบ่อยๆ จะเป็นเรื่องของการขอให้ทีมงานออกแบบระบบน้ำเพื่อความสะดวกสบายไปพร้อมกันในการออกแบบ เพื่อให้สวนสวยที่จัดนั้นคงความงามได้ต่อเนื่องยาวนาน ในการจัดสวน นอกจากการเลือกพันธุ์ไม้ที่มีสีสันสวยงามเหมาะสมกับสถานที่นั้นๆ ตามที่นักภูมิทัศน์หรือสถาปนิกออกแบบไว้แล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่าง ที่จะทำให้สวยสวยคงอยู่ได้ยืนยาว สวยงาม คือ การดูแลอย่างเหมาะสม ทั้งการให้น้ำ การพรวนดิน การตัดแต่งกิ่งและใบ การใส่ปุ๋ยและธาตุอาหารที่จำเป็นอย่างสม่ำเสมอ
แต่การทำระบบรดน้ำในสวนจะมีเรื่องของต้นทุนค่าใช้จ่ายในเรื่องของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงการออกแบบจัดวางผังของระบบรดน้ำ ที่รูปแบบการจัดสวนมักประกอบด้วยพืชพรรณหลากหลายชนิดในพื้นที่สวนรูปทรงโค้งเว้าหรือเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยม การติดตั้งระบบรดน้ำจึงจำเป็นต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป เข้ามาช่วยให้การวางผังระบบรดน้ำในสวนมีความสวยงามเพราะเส้นท่อหรือหัวจ่ายน้ำจะถูกวางซ่อนไว้ในกลุ่มต้นไม้หรือฝังลงไว้ในพื้นดิน ต้นไม้ทุกต้นได้รับรับอย่างทั่วถึงและเพียงพอและสามารถประหยัดแรงงานคนที่จะช่วยรดน้ำ
เพื่อตอบคำถามยอดฮิต คำถามแรก “เราจะรู้ได้อย่างไร…ว่าเราต้องรดน้ำให้ต้นไม้แต่ละต้นเยอะมากเท่าไหร่” สิ่งที่เราต้องสอบถามหาข้อมูลจากลูกค้าหรือเข้าดูพื้นที่ที่จะใช้จัดสวนและคำนวนปริมาณ จะประกอบด้วย
1) รู้ขอบเขตและลักษณะ พื้นที่ และรูปแบบดีไซด์ในการจัดสวน ตำแหน่งและจำนวนต้นไม้ชนิดต่างๆ ไม้ยืนต้น ไม้ล้อม ไม้พุ่ม ไม้คลุมดินเพื่อให้รู้ปริมาณน้ำที่ต้องใช้
2) รู้ว่าจะ ใช้แหล่งน้ำจากไหน มาเข้าระบบรดน้ำ ใช้น้ำประปา ใช้น้ำจากบ่อบาดาล หรือใช้น้ำจากแหล่งน้ำ เพื่อที่จะได้รู้ว่าน้ำจากแหล่งน้ำนั้นไม่เป็นน้ำกร่อยหรือน้ำเค็ม มี pH ที่เหมาะสม และเพื่อให้รู้ระยะทางในการสูบน้ำจากแหล่งน้ำนั้นมายังสวนสวย
3) รู้ ผังระดับ ในบริเวณที่จะจัดสวน เพื่อให้รู้ระดับความสูง นำมาใช้ร่วมกับกับการคำนวนงานระบบรดน้ำให้เหมาะสมกับประเภทหัวจ่ายน้ำที่จะนำมาใช้กับระบบรดน้ำและการจัดสวน
ถัดมาจะเป็นการตอบคำถามยอดฮิต คำถามที่สอง “ถ้าอยากมีระบบรดน้ำต้องใช้อุปกรณ์ หัวจ่ายน้ำ และส่วนประกอบอะไรบ้าง” หลังจากที่นักภูมิทัศน์หรือสถาปนิกได้ออกแบบและเลือกสรรชนิดของพืชพรรณ ทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้คลุมดิน ได้ถูกใจตามที่เราอยากได้และเป็นพืชพรรณที่เหมาะกับสภาพพื้นที่แล้ว เราจำเป็นต้องจัดโซนนิ่งกลุ่มต้นไม้ ว่าในโซนนั้น ต้นไม้ต้องได้รับ น้ำปริมาณมากเท่าไหร่ ต้อง จ่ายน้ำนานเท่าไหร่ มี รัศมีวงรดน้ำเป็นอย่างไร เพื่อที่จะนำไปเลือกอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในระบบรดน้ำได้
1) ต้นไม้แต่ละชนิดใช้กับหัวรดน้ำรูปแบบไหน เช่น การให้น้ำแบบระบบน้ำหยด, การให้น้ำแบบระบบหัวน้ำล้น, หัวจ่ายน้ำแบบมินิสปริงค์เกอร์ (Mini Sprinkler Head) หัวจ่ายน้ำแบบพ่นละอองน้ำ (POP-UP SPRAY HEAD), หัวจ่ายน้ำแบบระบบเฟืองขับ (POP-UP ROTOR), หัวจ่ายน้ำแบบระบบหมุนกระแทก (POP-UP IMPACT)
2) แต่ละโซนต้องการปริมาณน้ำมากเท่าไหร่ เพื่อควบคุมระบบการรดน้ำ เลือกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อและวาล์วได้เหมาะสม ว่าต้องติดตั้งวาล์ตรงไหน แบบไหน กี่ตัว
3) ต้องใช้ปั๊มน้ำที่มีแรงดันเท่าไหร่ จำนวนกี่ตัว วางตำแหน่งไหนบ้าง เพื่อสูบและกำหนดแรงดันส่งน้ำไปตามท่อจากต้นทางถึงหัวจ่ายน้ำได้อย่างเหมาะสม
สุดท้ายจะเป็นคำถามยอดฮิต คำถามที่สาม “ราคาการออกแบบและวางระบบน้ำราคาประมาณเท่าไหร่” จะเป็นคำถามที่จะนำไปสู่การตัดสินใจสุดท้าย ว่าจะตกลงที่จะลงทุนทำระบบรดน้ำในสวนหรือไม่ เมื่อทราบชนิด ขนาด และจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในพื้นที่สร้างสวนทั้งหมดแล้ว จะสามารถประมาณราคาอุปกรณ์ที่จะใช้ในการทำระบบรดน้ำได้ ถ้าพื้นที่สวนมีขนาดใหญ่ มีการติดตั้งอุปกรณ์หลากหลายชนิด มีความซับซ้อน ก็จะมีผลกับค่าแรงงานและค่าดำเนินการต่างๆ ในการติดตั้งวางผังระบบรดน้ำทั้งหมด
“รากดี” พร้อมให้คำปรึกษา ช่วยเหลือด้านการจัดภูมิทัศน์ รวมถึงวางผังระบบรดน้ำในสวนขนาดใหญ่ บริการดูแลสวนและภูมิทัศน์ทั่วไปโดยทีมผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายด้าน ปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Line@ https://bit.ly/3vFVcWa
#ระบบน้ำ #ระบบรดน้ำต้นไม้ #จัดสวน #รากดี #RakD #รากฐานที่มั่นคงเพื่อความสุขที่ยั่งยืน #LandscapeBusiness #RakDLandscape #จัดภูมิทัศน์ #ออกแบบจัดสวน #จัดสวนครบวงจร #ให้คำปรึกษาด้านภูมิทัศน์ #ดูแลรักษาภูมิทัศน์ #รับตัดแต่งต้นไม้สนามหญ้า #รับย้ายต้นไม้ใหญ่
