ภูมิสถาปัตยกรรมสามารถนิยามได้ว่าเป็นศิลปะของการออกแบบบริบท พื้นที่ว่าง และผู้คนให้เกิดความสมดุลกันและกัน ความสำคัญของการออกแบบ คือกำหนดรูปแบบการจัดการพื้นที่ให้เอื้อต่อความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยจะต้องคำนึงถึง ความสะดวกสบายต่อการใช้งาน วัสดุในการสร้างหรืออุปกรณ์ต่างๆ จะต้องมีความปลอดภัย และเหมาะสมเข้ากับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ด้วยความภูมิสถาปัตยกรรมนั้นไม่เพียงแค่สร้างสมดุลให้ผู้คนเพียงอย่างเดียว แต่จะส่งต่อความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่กับพื้นที่ และคนกับคน
ต้องเข้าใจบริบทของพื้นที่และผู้คนก่อนเสมอ…
ภูมิสถาปนิกจะทำงานตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การก่อสร้าง จนถึงการบำรุงรักษาขององค์ประกอบ เช่น ซอฟท์สเคป ฮาร์ดสเคป ระบบน้ำ ฯลฯ โดยพิจารณาปัจจัยการเข้าถึงการใช้งาน ความปลอดภัย ภายใต้ความเข้าใจบริบทและความต้องการของคนในพื้นที่ เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่ที่ออกแบบนั้นใช้งานได้จริง เพราะบางทีเราอาจเคยเห็นปัญหาสร้างประโยชน์จากพื้นที่รกร้างเพื่อหวังให้คนทั่วไปเข้ามาใช้ แต่กลับกลายเป็นพื้นที่ร้างอีกครั้ง? เนื่องจากเราไม่ได้เพิ่มคุณค่าของพื้นที่มากพอ อาทิ ออกแบบไม่เหมาะสม อุปกรณ์ไม่เอื้อต่อการใช้สอย ใช้งานไม่สะดวก อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดความยั่งยืนพื้นที่โดยรอบอีกด้วย ซึ่งงานภูมิสถาปัตย์หลายคนอาจมองว่าเป็นแค่การออกแบบสวนสาธารณะอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วยังรวมไปถึง Pocket Park สวนดาดฟ้า สวนหย่อม และพื้นที่สาธารณะใกล้เคียง
เพราะพื้นที่สีเขียวช่วยให้ผู้คนต่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ดังนั้น งานภูมิทัศน์ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเมือง กระตุ้นให้ผู้คนอยากออกมาใช้ชีวิตร่วมกันในหลากหลายมิติ การอยู่กับธรรมชาติช่วยให้เราพัฒนาความสามารถทางจิตใจของเราได้ นอกจากนี้ยังยกระดับระบบนิเวศให้สมดุลกันมากขึ้น และด้วยปัจจุบันที่กำลังมองหาทางเลือกอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน ภูมิสถาปัตยกรรมจึงมีการพัฒนาองค์ความรู้อย่างรวดเร็ว เพื่อพัฒนาพื้นที่เมืองต่างๆ ทั่วโลกอย่างกว้างขวางสำหรับตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้ได้มากที่สุด
